การจัดการคุณภาพ

หน่วยที่ 3 การจัดการคุณภาพ

Outline

1. แนวคิดเกี่ยวกับคุณภาพ
    1.1. ความหมายและความสำคัญของคุณภาพ
    1.2. พัฒนาการของการจัดการคุณภพ
    1.3. ต้นทุนคุณภาพ
2. การจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์การ
    2.1. แนวคิดการจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์การ
    2.2. หลักการของการจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์การ
    2.3. เครื่องมือการจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์การ
3. การผลิตเพื่อการจัดการคุณภาพ
    3.1. แนวคิดการผลิตเพื่อการจัดการคุณภาพ
    3.2. ระบบการผลิตเพื่อการจัดการคุณภาพ
4. มาตรฐานและรางวัลคุณภาพ
    4.1. มาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพ
    4.2. รางวัลคุณภาพ
_____________________________________________________

1. แนวคิดเกี่ยวกับคุณภาพ

    1.1. ความหมายและความสำคัญของคุณภาพ

ASQ ได้ให้คำจำกัดความของคำว่าคุณภาพไว้ว่า "คุณภาพ คือ คุณลักษณะโดยรวมของสินค้า หรือบริการ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้" ดังนั้นคุณภาพจึงมีความหมายเป็นสองมุมมอง คือ 
           1. ความหมายคุณภาพในมุมมองของลูกค้า
               ลักษณะคุณภาพของสินค้าในมุมมองของลูกค้า
               1. การปฏิบัติงานและสมรรถนะดี
               2. มีลักษณะเด่นเป็นที่พึงพอใจ
               3. มีความเชื่อถือได้
               4. มีความทนทาน
               5. ตรงตามข้อกำหนดพื้นฐาน
               6. สามรถซ่อมบำรุงได้อย่างรวดเร็ว
               7. มีสุนทรียภาพ
               8. คุณภาพที่รับรู้ต่อสาธารณชน

               ลักษณะคุณภาพของบริการในมุมมองของลูกค้า
               1. เวลาและความทันเวลา
               2. ความสมบูรณ์ครบถ้วนของบริการ
               3. พนักงานมีอัธยาศัยไมตรีที่ดี
               4. มีความสอดคล้องเท่าเทียมกันระหว่างลูกค้าแต่ละราย
               5. มีความสะดวกสบสยและเข้าถึงได้ง่าย
               6. มีบริการที่ถูกต้องตรงตามมาตรฐาน
               7. มีการตอบสนองต่อลูกค้าอย่างรวดเร็ว
           2. ความหมายคุณภาพในมุมมองของผู้ผลิต
               คุณภาพหมายถึง ความตรงตามมาตรฐาน

ความสำคัญของคุณภาพ
ความสำคัญของคุณภาพมี 4 ประการ คือ
1. คุณภาพมีผลต่อความสามารถในการทำกำไร
2. คุณภาพทำให้มีความสามารถในการแข่งขัน
3. คุณภาพทำให้เกิดความมั่นคงในระยะยาว
4. คุณภาพเป็นความรับผิดชอบของผู้ผลิตที่ีต่อผู้บริโภค

    1.2. พัฒนาการของการจัดการคุณภาพ

วิวัฒนาการของคุณภาพ
1. ยุคของการตรวจสอบ
    ขั้นตอยจะมี คัดเลือก นับ แบ่งชั้นสินค้า คัดเอาสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานออกไป
2. ยุคของการควบคุมคุณภาพ
    การควบคุมคุณภาพทำได้โดยหลัก 4 ประการ
    2.1. กำหนดมาตรฐานของสินค้าหรือบริการ
    2.2. ประเมินความด้อยคุณภาพเพื่อพิจารณาสาเหตุของข้อผิดพลาด
    2.3. ดำเนินการแก้ไขเมื่อมีความไม่ตรงตามมาตรฐาน
    2.4. วางแผนและป้องกันความผิดพลาดที่จะเกอดขึ้นในอนาคต
3. ยุคของการควบคุมคุณภาพเชิงสถิติ
    เป็นการนำเอาวิธีการทางสถิติมาใช้ในการควบคุม และการตรวจสอบ
4. ยุคของการควบคุมการะบวนการเชิงสถิติ
    เปลี่ยนแปลงการมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากวิธีการควบคุมคุณภาพเชิงสถิติเพื่อตรวจสอบหรือค้นหาความด้อยคุณภาพไปเป็นการใช้สถิติเพื่อป้องกันความด้อยคุณภาพ เครื่องมือพื้นฐานของ SPC : Statistical Process Control ก็คือ แผนภูมิควบคุม การวัดคุณภาพมีสองประเภทที่แตกต่างกันได้แก่
    4.1. การวัดตามคุณลักษณะ เป็นการวัดเชิงคุณภาพ เช่น วัดสี กลิ่น รสชาติ ความละเอียดของพื้นผิว
    4.2. การวัดชนิดผันแปร เป็นการวัดเชิงปริมาณ เช่น ความยาว น้ำหนัก ปรืมาตร อุณหภูมิ เวลา
5. ยุคของการจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์การ TQM : Total Quality Management เป็นวิธีการทางการจัดการที่เน้นการปรับปรุงกระบวนการ และระบบงานอย่างต่อเนื่อง

แนวคิดของนักปรัชญาคุณภาพ
1. วอลเตอร์ ชิวฮาร์ต
     เป็นผู้ริเริ่มการควบคุมคุณภาพเชิงสถิติ ผลงานที่สำคัญได้แก่
     1.1. แผนภูมิควบคุม
     1.2. แนวคิดของสาเหตุเฉพาะ
            การผันแปรของการผลิตแบ่งได้เป็นสองประเภท คือ 1. การผันแปรจากสาเหตุธรรมชาติ หรือสาเหตุแบบสุ่ม เป็นการผันแปรที่อยู่ภายใต้การควบคุม 2. การผันแปรจากสาเหตุเฉพาะซึ่งได้รับอิทธิพลจากภายนอก หรือสาเหตุเฉพาะอย่าง ไม่สามารถควบคุมได้ จำเป็นที่จะต้องงใช้แผนภูมิควบคุมในการจัดการ
     1.3. วงจรควบคุมของชิวฮาร์ต
             วงจรนี้ประกอบด้วยองค์ประกอบ 3 ประการ
              1. เกณฑ์ ที่ระบุข้อกำหนดที่ต้องการ
              2. การผลิต เป็นกระบวนการเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณภาพ
              3. วงจร PDCA : Plan Do Check Act
2. ดับบลัว เอ็ดเวิร์ด เดมมิ่ง
     แนวคิดของเดมมิ่งจะเน้น ความมีส่วนร่วมในการจัดการ การปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง การวิเคราะห์ทางสถิติ การกำหนดเป้าหมายและการสือสารขององค์การ แนวคิดที่สำคัญของเดมมิ่งได้แก่
     2.1. การปรับปรุงคุณภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง
     2.2. หลักการจัดการคุณภาพ 14 ประการ
            1. สร้างความมุ่งมั่นในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์
            2.ใช้แนวคิดการป้องกับความด้อยคุณภาพ แทนการกำหนดระดับการยอมรับของเสีย
            3. ใช้การควบคุมคุณภาพเชิงสถิติแทนการตรวจสอบ
            4. เลือกผู้ค้าจากความมุ่งมั่นด้านคุณภาพมากกว่าราคา
            5. ปรับปรุงการผลิตอย่างต่อเนื่องโดยเน้นคุณภาพสองประการคือ ระบบ และพนักงาน
            6. ฝึกอบรมพนักงาน เน้นการป้องกันปัญหาด้านคุณภาพ และการใช้เทคนิคทางสถิติเพื่อควบคุมคุณภาพ
            7. สร้างความเป็นผู้นำให้กับหัวหน้างาน
            8. ส่งเสริมความมีส่วนร่วมของพนักงาน
            9. ขจัดสิ่งกีดขวางระหว่างแผนกงานสนับสนุนการทำงานเป็นทีม
           10. ขจัดคำขวัญหรือเป้าหมายเลื่อนลอยที่ไม่บอกว่าต้องทำอย่างไรเพื่อบรรลุเป้าหมาย
           11. ขจัดโควตาเชิงตัวเลขที่เน้นแต่ปริมาณแต่ไม่ได้คุณภาพ
           12. ทำให้พนักงานมีความภาคภูมิใจในการทำงาน
           13. ให้การฝึกอบรมทั่วทั้งองค์การตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงจนถึงพนักงานผู้ปฏิบัติงาน
           14. สร้างความมุ่งมั่นของผู้บริหารระดับสูงเพื่อให้เกิดการจัดการคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
     2.3. วงจรเดมมิ่ง หรือวงจร PDCA
3. โจเซฟ เอ็ม จูแรน
     มีแนวคิดคล้ายของเดมมิ่ง แต่จูแรยเห็นว่าการปรับปรุงคุณภาพไม่จำเป็นต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ให้การจัดการคุณภาพเป็นหน้าที่ของทุกคนในองค์การ แนวคิดของจูแรนโดยสรุปมีดังนี้
     3.1. ความหมายของคุณภาพ
            จูแรนมองในแง่มุมของลูกค้ามากกว่า จึงให้ความหมายว่า คุณภาพหมายถึงความเหมาะสมในการใช้งาน
     3.2. ต้นทุนคุณภาพ
            แบ่งเป็นสามส่วน คือ ต้นทุนการป้องกัน ต้นทุนการประเมิน ต้นทุนข้อผิดพลาด
     3.3. สามเหลี่ยมคุณภาพ
            ประกอบไปด้วย การวงาแผนคุณภาพ การควบคุมคุณภาพ การปรับปรุงคุณภาพ
4. ฟิลลิป บี ครอสบี้
    แนวคิดที่สำคัญได้แก่
    4.1. ทำให้ถูกต้องตั้งแต่เริ่มแรก และของเสียเป็นศูนย์
    4.2. คุณภาพไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
    4.3. การจัดการคุณภาพอย่างสมบูรณ์ประกอบด้วยคุณภาพ 4 ส่วน และ 14 ขั้นตอน
           สี่ส่วนเป็นการกำหนดเป้าหมายการควบคุมคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
           1. คุณภาพตรงตามข้อกำหนด
           2. การป้องกันข้อผิดพลาดด้วยการหาสาเหตุที่แท้จริง
           3. การมุ่งเน้นของเสียเป็นศูนย์
           4. การวัดต้นทุน
           สิบสี่ขั้นตอนได้แก่
           1. ความมุ่งมั่นของผู้บริหาร
           2. ทีมงานปรับปรุงคุณภาพ
           3. การวัดคุณภาพ
           4. การประเมินต้นทุนคุณภาพ
           5. ความตระหนักด้านคุณภาพ
           6. การปฏิบัติการแก้ไข
           7. การจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะของเสียเป็นศูนย์
           8. การฝึกอบรมหัวหน้างาน
           9. วันของเสียเป็นศูนย์
          10. การกำหนดเป้าหมายคุณภาพ
          11. การขจัดสาเหตุของความผิดพลาด
          12. การยอมรับ
          13. จัดตั้งคณะกรรมการคุณภาพ
          14. ย้อนกลับไปทำขั้นตอนแรก
5. คาโอรุ อิชิกาวา
    แนวคิดของ อิชิกาว่าได้แก่
    5.1. ผังเหตุและผล
    5.2. เน้นความสำคัญของลูกค้าภายใน
    5.3. การควบคุมคุณภาพทั่วทั้งองค์การ
    5.4. กลุ่มคุณภาพ

    1.3. ต้นทุนคุณภาพ 

คุณภาพจะมีต้นทุนที่เกี่ยวข้องอยู่ 2 ประเภท
1. ต้นทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณภาพ
    1.1. ต้นทุนการป้องกัน
    1.2. ต้นทุนการประเมิน
2. ต้นทุนจากการด้อยคุณภาพ
    2.1. ต้นทุนข้อผิดพลาดภายใน
           1. ต้นทุนของเสีย
           2. ต้นทุนการซ่อมแซม และการทำซ้ำ
           3. ต้นทุนความผิดพลาดของกระบวนการ
           4. ต้นทุนที่เกิดจากการหยุดกระบวนการ
           5. ต้นทุนการขายลดราคา
           6. ต้นทุนอื่นๆ ในการจัดการสินค้าด้อยคุณภาพ
    2.2. ต้นทุนข้อผิกพลาดภายนอก
           1. ต้นทุนการคืนสินค้า
           2. ต้นทุนการรับประกันสสินค้า
           3. ต้นทุนการสืบหาสาเหตุปัญหา
           4. ต้นทุนการสูญเสียยอกขาย
           5. ต้นทุนการชดเชยการบาดเจ็บจากการใช้สินค้า
           6. ต้นทุนจากการถูกฟ้องร้องทางกฎหมาย

2. การจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์การ

    2.1. แนวคิดการจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์การ

1. ความหมายของการจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์การ
แนวคิดการจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์การมุ่งเน้นสิ่งเดียวคือ คุณภาพในการจัดการองค์การ 
มีจุดประสงค์เดียวกันคือ ความอยู่รอดขององค์การและการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน
อาจสรุปได้ว่า การจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์การ คือ การจัดการองค์การที่มุ่งเน้นคุณภาพโดยอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกคนในองค์การ เพื่อมุ่งสู่ผลกำไรในระยะยาวด้วยการสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าและผู้เกี่ยวข้องขององค์การรวมถึงสังคมโดยรวม

2. การเปรียบเทียบการจัดการทั่วทั้งองค์การ และการจัดการแบบดั้งเดิม มีความแตกต่างกันในด้านต่างๆ ดังนี้
    2.1.ด้านการวางแผนกลยุทธ์ แบบเดิมมองว่าผลกำไรเป็นตัวผลักดันในการวางแผนกลยุทธ์ การดำเนินการด้านคุณภาพนั้นเป็นต้นทุนที่สูงที่ไม่ก่อให้เกิดกำไร แต่การจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์การมีคุณภาพเป็นเป้าหมายหลัก
    2.2.ด้านความสัมพันธ์กับลูกค้าและผู้ค้า แบบเดิมมองเฉพาะลูกค้าภายนอกเท่านั้น การจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์การมองว่าทุกคนทุแผนกในองค์การเป็นทั้งผู้ค้า และลูกค้าภายในเวลาเดียวกัน
    2.3. ด้านโครงสร้างองค์การ แบบเดิมจะมองว่าแต่ละแผนกงานเป็นส่วนงานเฉพาะมีความเกี่ยวเนื่องกันน้อย แต่แบบใหม่มองว่าทุกแผนกงานมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันเป็นกระบวนการ
    2.4. ด้านการเปลี่ยนแปลงองค์การ แบบเดิมยึดมั่นแนวทางเดิมที่ทำให้ประสบความสำเร็จ แบบใหม่มีการเปลี่ยนแปลงให้ทันกับสถานการณ์ปัจุบันมีความยืดหยุ่นกว่า
    2.5. ด้านการทำงานเป็นทีม แบบเดิมแผนกแต่ละแผนกจะต่างคนต่างทำงานของตัวเอง แบบใหม่จะทำงานสนับสนุน ติดต่อสื่อสารกันส่งเสริมการทำงานเป็นทีม
    2.6. ด้านการจูงใจและออกแบบงาน แบบเดิมจะมีการกำหนดรางวัลและบทลงโทษไว้ใช้ในการจัดการบุคคล แบบใหม่จะใช้วิธีการจูงใจพนักงานโดยผู้นำแทน
    2.7. ด้านการจัดการและความเป็นผู้นำ แบบเดิมมองบุคลากรว่าเป็นเพียงผู้ปฏิบัติตามสิ่งที่องค์กรกำหนด แบบใหม่พยายามส่งเสริมบุคลากรให้มีความเป็นผู้นำ และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

    2.2. หลักการของการจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์การ

การจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์การมีหลักการ 4 ประการ คือ
1. การมุ่งเน้นลูกค้า โดยการคำนึงถึงปัจจัยหลักที่ทำให้ลูกค้าพึงพอใจดังนี้
    1.1. คุณภาพ
    1.2. ต้นุทน
    1.3. เวลานำในการผลิต
    1.4. ผลิตภาพ
    1.5. ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อม
    1.6. ขวัญกำลังใจในการทำงาน
2. การวงแผนเชิงกลยุทธ์ และความเป็นผู้นำ
    ต้องมีการวางแผนที่สอดคล้องกับการพัฒนาเชิงคุณภาพ
3. การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องและการเรียนรู้ ต้องมีการปรับปรุงด้านต่างๆ ดังนี้
    3.1. การปรับปรุงผลิตภัณฑ์
    3.2. การปรับปรุงการออกแบบ และกระบวนการทำงาน
    3.3. การปรับปรุงการวัดและการประเมินผล
4. การให้อำนาจและการทำงานเป็นทีม
    สามารถพิจารณาการเป็นทีมได้ 3 รูปแบบ
    4.1. การทำงานเป็นทีมในแนวตั้ง ระหว่างผู้บริหารระดับสูง และพนักงานระดับล่าง
    4.2. การทำงานเป็นทีมในแนวนอน ข้ามสายงาน
    4.3. การทำงานเป็นทีมระหว่างองค์การ สร้างความเป็นหุ้นส่วน

    2.3. เครื่องมือการจัดการคุณภาพทั่วทั้งองค์การ

1. เครื่องมือสำหรับวางแผนคุณภาพ 7 แบบ
    1.1. แผนผังกลุ่มเชื่อมโยง
    1.2. แผนผังความสัมพันธ์
    1.3. แผนผังต้นไม้
    1.4. แผนผังแมทริกซ์
    1.5. การวิเคราะห์ข้อมูลแบบแมทริกซ์
    1.6. แผนภูมิขั้นตอนการตัดสินใจ
    1.7. แผนผังลูกศร
2. เครื่องมือสำหรับการปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง 7 อย่าง
    2.1. ใบตรวจสอบ
    2.2. ผังการไหล
    2.3. ฮีสโตแกรม
    2.4. ผังพาเรโต
    2.5. ผังแสดงเหตุและผล
    2.6. ผังการกระจาย
    2.7. แผนภูมิควบคุม

3. การผลิตเพื่อการจัดการคุณภาพ

    3.1. แนวคิดการผลิตเพื่อการจัดการคุณภาพ

หลักการสำคัญของแนวคิดการผลิตเพื่อจัดการคุณภาพประกอบด้วย
1. ปรัชญา
    1.1. การมุ่งพันธกิจมากกว่าการทำกำไร
    1.2. การมุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างถูกต้อง
    1.3. การสร้างความไว้วางใจและเคารพซึ่งกันและกัน
    1.4. การพึ่งพาต้นเองขององค์การในการตัดสินใจดำเนินงาน
2. กระบวนการ มุ่งเน้นสร้างกระบวนการที่ขจัดควาสูญเปล่า
    2.1. การสร้างการไหลของกระบวนการอย่างต่อเนื่องเพื่อทำให้ปัญหาไม่ถูกซ่อนเร้น เช่น one piece flow, U-shaped one piece cell
    2.2. การใช้ระบบดึงเพื่อหลีกเลี่ยงการผลิตเกืนความจำเป็น โดยอาศัยสัญญาณแบบง่ายๆ ที่เนียกว่า คัมบัง (Kanban)
    2.3. การปรับเรียบการผลิต โดยผลิตสินค้าหลายชนิดผสมกันในแต่ละวันเพื่อขจัดปัญหารอยต่อของการผลิตเปลี่ยนรุ่น
    2.4. สร้างวัฒนธรรมการหยุดเพื่อแก้ปัญหาทันที โดยมีสัญลีกษณ์ง่ายๆ เช่น ปุ่มอันดง (Andon)
    2.5. การที่มีมาตรฐานเป็นพื้นฐานของการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และการให้อพนาจแก่พนักงาน โดยการกำหนดงานที่มีมาตรฐานประกอบไปด้วย 3 องค์ประกอบ คือ 1.เวลาแทกต์ 2.ลำดับขั้นตอนของกระบวนการทำงาน 3.จำนวนสินค้าคงคลังที่ต้องมีเพื่อใช้ในการทำงานตามมาาตรฐาน
    2.6. ใช้การควบคุมที่มองเห็นได้เพื่อเปิดเผยปัญหาที่ถูกซ่อนเร้น เช่น ใช้แนวคิด 5 ส
    2.7. ใช้เฉพาะเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ และสนับสนุนบุคลากรและกระบวนการ
3. บุคลากรและหุ้นส่วนทางธุรกิจ
    3.1. สร้างผู้นำที่เข้าใจปรัชญาและสอนงานผู้อื่นได้
    3.2. พัฒนาบุคลากรและทีมงานที่จะดำเนินการตามปรัชญาการจัดการคุณภาพ
    3.3. สร้างความสัมพันธ์อันดีกับเครือข่ายและหุ้นสวนผู้ค้า
4. การแก้ไขปัญหา
    4.1. ไปดูให้เห็นด้วยตนเองเพื่อสร้างความเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
    4.2. ทำการตัดสินใจอย่างช้าๆ โดยความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ พิจารณาทางเลือกทั้งหมดอย่างถี่ถ้วนและนำไปปฏิบัติอย่างรวดเร็ว การตัดสินใจแก้ปัญหาประกอบไปด้วยองค์ประกอบสำคัญ 5 ประการ
           1. การค้นหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
           2. ทำความเข้าใจรากของปัญหาที่จะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น
           3. พิจารณาทางเลือกในการแก้ไขปัญหาตามเหตุผล
           4. หามติของกลุ่มอย่างมีระบบ
           5. ใช้การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
    4.3. มุ่งสู่การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้โดยการสะท้อนกลับเพื่อแก้ปัญหาอย่างจริงจัง และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยใช้การวิเคราะห์ 5 why ที่มีขั้นตอนดังนี้
           1. การรับรู้ปัญหาเริ่มต้น
           2. ทำปัญหาให้ชัดเจน
           3. บ่งชี้จุดของสาเหตุ
           4. สอบสวนหาสาเหตุ
           5. การหามาตรการป้องกัน
           6. ประเมินผลลัพท์
           7. ทำให้เป็นมาตรฐาน
          การสะท้อนกลับจะใช้การวัดกระบวนการในทุกๆ จุดในพื้นที่โรงงานสามประเภท คือ
          1. ตัววัดสมรรถนะระดับองค์การ
          2. ตัววัดระดับปฏิบัติการ
          3. ตัววัดการเพิ่มของการปรับปรุง

    3.2. ระบบการผลิตเพื่อการจัดการคุณภาพ

1. หลักการของระบบการผลิตแบบลีน
    1.1. คุณภาพตั้งแต่เริ่มต้น
    1.2. การลดความสูญเปล่า
    1.3. การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
    1.4. ความยืดหยุ่นของการผลิต
    1.5. สัมพันธภาพระยะยาว
2. ความสูญเปล่าในการผลิตแบบลีน
     2.1. การผลิตเกินความจำเป็น
     2.2. การมีสินค้าคงคลังมากเกินไป
     2.3. การรอคอย
     2.4. การขนถ่ายที่ไม่จำเป็น
     2.5. การมีกระบวนการที่มากเกินไป
     2.6. การเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น
     2.7. การมีของเสีย
     2.8. การขาดการเชื่อมต่อของความรู้
3. องค์ประกอบของระบบการผลิตแบบลีน
     3.1. การกำหนดคุณค่าจากลูกค้า โดยมองจากมุมมองของลูกค้า ดังนั้นการกำหนดอัตรการผลิตที่คำนึงถึงคุณค่าต่อลูกค้าจึงมิใช่รอบเวลาการผลิตที่คำนวณจาก เวลาการผลิตที่มี หารด้วยกำลังการผลิตของเครื่องจักรหรือคนงาน แต่จะเป็นเวลาที่เรียกว่า เวลาแท็กต์ ซึ่งคำนวณจากเวลาการผลิตที่มีหารด้วยปริมาณสินค้าที่ลูกค้าต้องการ
     3.2.การวิเคราะห์สายธารคุณค่า
     3.3. การทำให้มีการไหลของคุณค่าไปสู่ลูกค้า
     3.4. การให้ลูกค้าเป็นผู้ดึงคุณค่าจากิจกรรมก่อนหน้า
     3.5. การดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อมุ่งความสมบูรณ์แบบ

4. มาตรฐานและรางวัลคุณภาพ

    4.1. มาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพ

คุณภาพที่เป็นมาตรฐานในระดับสากล ซึ่งกำหนดขึ้นโดยองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน International Organization for Standardization (ISO) ที่รู้จักแพร่หลายในประเทศไทยได้แก่
1. ISO 9000 มาตรฐานการจัดการคุณภาพ
2. ISO 14000 มาตรฐานการจัดการสิ่งแวดล้อม
3. ISO 18000 มาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัย และความปลอดภัย
4. ISO 22000 มาตรฐานการจัดการคุณภาพในอุตสาหกรรมผลิตอาหาร และเครื่องดื่ม นอกจากนี้ยังมี GMP หลักเกณฑ์ และวิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร และ HACCP ระบบวิเคราะห์อันตรายและควบคุมจุดวิกฤต

    4.2. รางวัลคุณภาพ

1. รางวัลเดมมิ่ง
    เป็นรางวัลของประเทศญี่ปุ่นที่ให้กับองค์การที่ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงคุณภาพโดยประยุกต์ใช้การควบคุมคุณภาพทั่วทั้งองค์การ
2. รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (TQA)
    มีพื้นฐานทางด้านเทคนิคและกระบวนการตัดสินรางวัลเช่นเดียวกับรางวัลคุณภาพแห่งชาติมัลคัมบัลดริด

____________________จบ_______________________

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดการผลิตและดำเนินงาน และหลักการตลาด

ทำเลที่ตั้งและการวางผังสถานประกอบการ

การพยากรณ์ การวางแผน และการควบคุมการผลิตและการดำเนินงาน